เมนู

27. อรรถกถาปุลินปูชกเถราปทาน


อปทานของท่านพระปุลินปูชกเถระ มีคำเรื่มค้นว่า วิปสฺสิสฺส
ภควโต
ดังนี้.
พระเถระแม้นี้ ได้บำเพ็ญบุญญาธิการไว้ในพระพุทธเจ้าองค์ก่อน ๆ
สั่งสมบุญทั้งหลายอันเป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพานในภพนั้น ๆ ในกาลแห่ง
พระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่าวิปัสสี บังเกิดในตระกูลแห่งหนึ่ง มีจิต
เลื่อมใสในพระศาสนา นำทรายเก่า ๆ ที่เนินแห่งเจดีย์และเนินโพธิ์ออก
แล้วเกลี่ยทรายขาวเสมือนกับเกล็ดแก้วมุกดาใหม่ ๆ แล้วประดับพวงมาลัย.
ด้วยกรรมนั้น ท่านบังเกิดในเทวโลก เสวยทิพย์สมบัติในวิมานทองหลาย
โยชน์ รุ่งโรจน์ไปด้วยแก้วอันเป็นทิพย์ในที่นั้น จุติจากอัตภาพนั้นแล้ว
เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ สมบูรณ์ด้วยแก้ว 7 ประการ เสวยมนุษย์สมบัติ
ท่องเที่ยวไป ๆ มา ๆ ในพุทธุปบาทกาลนี้ บังเกิดในตระกูลหนึ่งที่สมบูรณ์
ด้วยสมบัติ เลื่อมใสในพระศาสนาบวชแล้ว เจริญวิปัสสนา บรรลุพระ-
อรหัตแล้ว. ท่านปรากฏโดยนามที่เหมือนกันนามแห่งบุญที่ตนกระทำไว้ว่า
ปุลินปูชกเถระ ดังนี้.
ท่านระลึกถึงบุพกรรมของตนเกิดโสมนัส เมื่อจะแสดงปุพพจริตา-
ปทาน จึงกล่าวคำมีอาทิว่า วิปสฺสิสฺส ภควโต ดังนี้. ในคำนั้น ชื่อว่า
วิปสฺสี เพราะเห็นต่าง ๆ หรือชื่อว่า วิปสฺสี เพราะเห็นแจ้งแทงตลอด
หรือชื่อว่า วิปสฺสี เพราะเห็นประโยชน์ ต่างด้วยประโยชน์ตน และ
ประโยชน์ผู้อื่นเป็นต้นต่าง ๆ หรือชื่อว่า วิปสฺสี เพราะเห็นสภาวธรรม

อันต่างโดยบัญญัติและปรมัตถ์เป็นต้นต่างๆ ที่ขนทรายเก่าๆ ทิ้งเกลี่ยทราย
ใหม่ ๆ อันขาวบริสุทธิ์ ที่ต้นโพธิ์อันสูงสุด คือที่โรงกลมแห่งโพธิพฤกษ์
อันสูงสุด. คำที่เหลือมีอรรถง่ายทั้งนั้นแล.
จบอรรถกถาปุลินปูชกเถราปทาน

อุตติยเถราปทานที่ 8 (28)


ว่าด้วยผลแห่งการส่งข้ามฟาก


[30] เวลานั้น เราเป็นจระเข้อยู่ใกล้ฝั่งแม่น้ำจันทภาคา เรา
ขวนขวายหาเหยื่อของตน ได้ไปยังท่าน้ำ สมัยนั้น พระ-
สยัมภูผู้อัครบุคคลพระนามว่าสิทธัตถะ พระองค์ประสงค์จะ
เสด็จข้ามแม่น้ำ จึงเสด็จเข้ามาสู่ท่าน้ำ.

ก็เมื่อพระสัมพุทธเจ้าเสด็จมาถึง แม้เราก็มาถึงที่ท่าน้ำนั้น
เราได้เข้าไปใกล้พระสัมพุทธเจ้าแล้ว ได้กราบทูลดังนี้ว่า เชิญ
เสด็จขึ้น (หลังข้าพระองค์) เถิด พระมหาวีรเจ้า ข้าพระองค์
จักข้ามส่งพระองค์ ขอพระองค์ทรงอนุเคราะห์วิสัยของความ
เป็นบิดาแก่ข้าพระองค์เถิด พระมหามุนีเจ้าข้า พระมหามุนี
ทรงสดับคำทูลเชิญของเราแล้วเสด็จขึ้น (หลัง) เราร่าเริง มีจิต
ยินดี ได้ข้ามส่งพระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้นายกของโลก ที่ฝั่ง
แม่น้ำโน้น พระผู้มีพระภาคเจ้าสิทธัตถะผู้นายกของโลก ทรง
ยังเราให้พอใจ ณ ที่นั้นว่า ท่านจักได้บรรลุอมตธรรม.

เราเคลื่อนจากกายนั่นแล้ว ได้ไปสู่เทวโลกแวดล้อมด้วย
นางอัปสร เสวยสุขอันเป็นทิพย์อยู่ เราได้เป็นจอมเทวดา
เสวยเทวรัชสมบัติอยู่ 7 ครั้ง ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิผู้เป็น
ใหญ่ในแผ่นดิน 3 ครั้ง.

เราขวนขวายในวิเวก มีปัญญาและสำรวมแล้วด้วยดี
ทรงกายอันเป็นที่สุดอยู่ในศาสนาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า.

ในกัปที่ 94 แต่กัปนี้ เราได้ข้ามส่งพระนราสภ ด้วย